ญี่ปุ่นพบ "แอนติบอดี" ป้องกันโควิดยังคงอยู่ในร่างกายต่อไปอย่างน้อยครึ่งปีหลังหายจากการติดเชื้อแล้ว
กลุ่มวิจัยมหาวิทยาลัยเมืองโยโกฮาม่าได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับ "แอนติบอดี" ในการป้องกันเชื้อโควิด-19 โดยได้ทำการตรวจสอบผู้ที่หายป่วยและฟื้นตัวหลังจากติดเชื้อโควิด-19 พบว่า 98% ของผู้ที่ฟื้นตัวแล้วยังคงมีแอนติบอดีที่ป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 หลงเหลืออยู่ในร่างกายแม้จะผ่านไปครึ่งปีแล้วก็ตาม
ซึ่งหมายความว่าหลังจากนี้จะสามารถลดโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้ออีกครั้งไปได้อย่างน้อยครึ่งปี ถือเป็นการค้นพที่เป็นผลดีต่อการพัฒนาวัคซีนโควิด-19
ทางกลุ่มวิจัยได้ทำการวิเคราะห์ตัวอย่างเลือดของผู้ป่วยโควิด-19 ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคมจำนวน 376 คนซึ่งอยู่ในช่วงอายุ 20-70 ปี ที่ตอนนี้หายป่วยและฟื้นตัวหลังจากติดเชื้อโควิด-19 มาเป็นเวลา 6 เดือน
ผลการวิเคราะห์ตัวอย่างเลือด พบปริมาณของแอนติบอดีในร่างกายของผู้ที่หายป่วยจากการติดเชื้อมา 6 เดือนดังนี้
ผู้ป่วยไม่มีอาการหรือมีอาการไม่รุนแรง : พบปริมาณแอนติบอดี 97%
ผู้ป่วยที่มีอาการระดับปานกลางถึงรุนแรง : พบปริมาณแอนติบอดี 100%
เมื่อมองโดยภาพรวมจะเห็นได้ว่าผู้ที่หายจากเชื้อมาเป็นเวลา 6 เดือนจะมีปริมาณแอนติบอดีหลงเหลืออยู่ในร่างกายถึง 98% และยังสรุปได้ว่ายิ่งเป็นผู้ป่วยหนัก แอนติบอดีก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะหลงเหลืออยู่ในร่างกายมากขึ้น
ที่มา : https://www3.nhk.or.jp/news/html/20201202/k10012741951000.html