ปริมาณแอนติบอดีของผู้ป่วยโควิด-19 ลดลงอย่างรวดเร็วในระยะเวลา 3 เดือน
คณะนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันคิงส์คอลเลจ มหาวิทยาลัยลอนดอน ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของภูมิต้านทานหรือแอนติบอดี ที่ร่างกายของมนุษย์ผลิตขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยได้ทำการศึกษาจากผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 65 คน ในระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน
ผลการตรวจเลือดของผู้ป่วย พบว่า 60% ของผู้ป่วยมีประสิทธิภาพในการตอบสนองของภูมิคุ้มกันในระดับสูง โดยจะสูงที่สุดในช่วงประมาณ 3 สัปดาห์หลังจากคนไข้เริ่มแสดงอาการของโรคโควิด-19 จากนั้นระดับของแอนติบอดีในร่างกายของผู้ป่วยส่วนใหญ่จะลดลงอย่างรวดเร็วถึง 23 เท่าในช่วงระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งผู้ป่วยบางรายแทบจะไม่มีแอนติบอดีหลงเหลืออยู่เลย โดยมีผู้ป่วยเพียง 17% เท่านั้นที่ยังคงความสามารถในการต้านทานเชื้อลักษณะนี้อยู่ต่อไปได้ถึง 3 เดือน นอกจากนี้การศึกษาในครั้งนี้ยังบ่งชี้ว่าการสร้าง "ภูมิคุ้มกันหมู่" อาจไม่ได้ผลในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระยะยาว
"ภูมิคุ้มกันหมู่" คือภาวะที่ประชากรส่วนมากของสังคมมีภูมิคุ้มกันโรค โดยคิดเป็นสัดส่วนจำนวนคนที่สูงมากพอ จนช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคตได้ โดยเมื่อสถานที่ใดสถานที่หนึ่งมีภูมิคุ้มกันหมู่เกิดขึ้น ประชากรส่วนหนึ่งที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันหรือร่างกายอ่อนแอจนไม่มีภูมิคุ้มกันโรค ก็จะได้รับประโยชน์จากการปกป้องนี้โดยอัตโนมัติ เพราะพาหะที่นำเชื้อโรคจากภายนอกเข้ามา จะไม่สามารถส่งต่อเชื้อนั้นให้กับคนอื่นๆ เป็นจำนวนมากจนเกิดการระบาดขึ้นได้ ซึ่งภูมิคุ้มกันนั้นอาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเมื่อหายจากโรค หรือเกิดจากการฉีดวัคซีนก็ได้ แต่ก็ใช่ว่าภูมิคุ้มกันหมู่นั้นจะช่วยป้องกันโรคระบาดได้ทุกชนิด
ที่มา :
https://www.msn.com/ja-jp/news/video/新型コロナ-発症から約3カ月で抗体の量が急激に減少/ar-BB16HdHH
https://www.bbc.com/thai/features-53397773