GDP ญี่ปุ่นไตรมาสแรกหดตัว 5.1% เนื่องจากโควิด-19 ทำให้การบริโภคชะลอตัว
สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสที่ 1 (ม.ค.- มี.ค.) ของปีนี้หดตัวลง 5.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส และหดตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะหดตัว 4.6%
ทั้งนี้เนื่องจากการประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งที่ 2 รวมถึงความล่าช้าในการจัดหาฉีดวัคซีน ได้ส่งผลให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลง
อย่างไรก็ตามการหดตัวในครั้งนี้ก็ยังไม่แย่เท่ากับเมื่อไตรมาสที่ 2 (เม.ย.- มิ.ย.) ของปีที่แล้วที่หดตัวมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 28.6% เนื่องจากการประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งที่ 1
การอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนลดลง 1.4% เนื่องจากการหมุนเวียนของมูลค่าซื้อขายในร้านอาหารและโรงแรมที่มีความล่าช้า แต่ก็ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 2%
การใช้จ่ายด้านทุนลดลง 1.4% ซึ่งตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4%
การส่งออกเพิ่มขึ้น 2.3% ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ยังคงมีมูลค่าเป็นบวกเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน แต่ถึงอย่างนั้นการเติบโตก็เป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ประสบปัญหาเรื่องการขาดแคลนสารเซมิคอนดัคเตอร์ทั่วโลก
รัฐบาลญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า GDP จะเติบโตประมาณ 4% ในปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ทางด้านนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นว่าไม่น่าเป็นไปได้ เนื่องจากการประกาศภาวะฉุกเฉินรอบที่ 3 ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไปแล้ว
ที่มา : https://www3.nhk.or.jp/news/html/20210518/k10013036691000.html