นายกรัฐมนตรีอาเบะถูกวิจารณ์เรื่องความล่าช้าในการรับมือกับโควิด-19

  หลังจากที่นายอาเบะ ชินโซ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 17 เมษายนเป็นต้นมา และมีการเรียกร้องขอความร่วมมือจากประชาชนให้ลดการออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น รวมถึงขอความร่วมมือในการปิดกิจการชั่วคราวจากสถานประกอบการบางแห่ง

  อย่างไรก็ดี นักวิจารณ์บางส่วนมองว่า การรับมือของทางญี่ปุ่นนั้น ล่าช้าและดำเนินการน้อยเกินไป โดยการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลังจากที่นานาประเทศได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ในเมืองสำคัญ ๆ ไปแล้ว ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นเกินกว่า 10,000 คน จนอาจส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศญี่ปุ่นจนอาจเป็นศูนย์กลางแพร่เชื้อได้ ไปจนถึงปัญหาขาดแคลนเตียงในโรงพยาบาล บุคคลากรทางการแพทย์ ไปจนถึงอุปกรณ์ต่างๆที่มีไม่เพียงพอ จนทำให้โรงพยาบาลมีคนไข้ล้นมือ ไม่สามารถรับมือได้จนถึงขั้นปฏิเสธการรับผู้ป่วย

  ที่ผ่านมาแม้ญี่ปุ่นจะมีมาตรการประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายๆเมือง แต่ก็เหมือนว่าประชาชนจะยังสับสนและยังใช้ชีวิตกันตามปกติ เช่นการเดินทางบนรถไปเป็นกลุ่ม ซึ่งล้วนแต่เป็นจุดศูนย์รวมการแพร่เชื้อขนาดใหญ่ พร้อมกันนี้ ยังวิจารณ์นายกรัฐมนตรีอาเบะ ว่าห่วงเศรษฐกิจมากเกินไป มากกว่าจะสนใจเรื่องการดูแลป้องกันชีวิตผู้คนจากไวรัสโควิด-19

  นอกจากนี้ การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของญี่ปุ่นยังให้อำนาจแก่หน่วยงานที่ดูแลในระดับท้องถิ่นน้อยกว่าประเทศอื่น ๆ โดยทางการญี่ปุ่นไม่สามารถลงโทษผู้ที่ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำร้องขอของผู้ว่าการฯในเรื่องของการอยู่บ้านหรือการปิดร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งเท่ากับว่า ประสิทธิผลของการประกาศจึงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชน

  สัปดาห์ที่แล้วนายกรัฐมนตรีอาเบะเพิ่งถูกโลกสื่อสังคมออนไลน์วิจารณ์หลังจากโพสต์คลิปนั่งบนโซฟากับสุนัขตัวโปรด จิบน้ำชาและอ่านหนังสือ หวังเชิญชวนให้คนอยู่บ้าน แต่ถูกคนใช้ทวิตเตอร์ตำหนิว่าไม่สนใจชีวิตประชาชนที่กำลังลำบากเพราะโควิด-19 นอกจากนี้เขายังปกป้องภรรยาที่ไปชมดอกซากุระบานในขณะที่รัฐบาลขอให้คนอยู่บ้านว่า เป็นงานเลี้ยงส่วนตัวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเท่านั้น

ที่มา
https://www.msn.com/ja-jp/news/coronavirus/新型コロナで露わになった安倍政権の致命的「遅さ」/ar-BB12WpET
https://www.mcot.net/viewtna/5e9807a5e3f8e40af8431e8e
https://www.ryt9.com/s/iq29/3112975