ผู้ว่าฯ โอกินาว่าเรียกร้องให้ฐานทัพสหรัฐยกระดับการป้องกันโควิด-19 มากกว่านี้ หลังพบผู้ติดเชื้อในฐานทัพสหรัฐที่จังหวัดโอกินาว่า
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ทางนาวิกโยธินสหรัฐ ได้แจ้งผ่านเพจเฟซบุ๊กทางการของตนว่า ได้มีการพบผู้ติดเชื้อในกองทัพเป็นกลุ่มก้อน 2 กลุ่ม โดยไม่ได้ชี้แจงถึงจำนวนผู้ติดเชื้อ และรายละเอียดการติดเชื้อว่ามาจากสาเหตุใด แต่ได้มีเพิ่มมาตรการคุมเข้มเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ด้วยการสั่งล็อกดาวน์ รวมถึงสงวนสิทธิ์การจราจรผ่านทางเข้าฐานทัพทั้งสอง เฉพาะแก่เจ้าหน้าที่กองทัพบางส่วนเท่านั้น จากนั้นทางการจังหวัดโอกินาว่าได้มีการเรียกร้องให้ทางกองทัพสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการติดเชื้อในครั้งนี้ถึงหลายครั้ง และล่าสุดทางการจังหวัดโอกินาว่าเพิ่งได้รับรายงานเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมว่า มีการพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนถึง 61 คน ในฐานทัพสหรัฐจังหวัดโอกินาว่า โดยทั้ง 61 คนนั้น พบในฐานทัพอากาศฟูเตนมะ 39 คน และพบในค่ายฮันเซน 22 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการพบผู้ติดเชื้อจากฐานัพทั้งสอง 16 คน
นายทามากิ เดนนี ผู้ว่าการจังหวัดโอกินาวะ ได้แถลงการณ์ในวันเดียวกันก่อนทราบตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อว่า ได้โทรศัพท์หารือกับผู้บัญชาการทหารสหรัฐ ว่าให้ทำการยกระดับการป้องกันไวรัสโควิด-19 หยุดส่งทหารจากสหรัฐอเมริกามาที่โอกินาว่า ล็อกดาวน์ฐานทัพ และเพิ่มความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลมากกว่านี้ และกล่าวว่าชาวโอกินาว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมากถึงเรื่องการติดเชื้อที่ฐานทัพสหรัฐ อีกทั้งยังรู้สึกเสียใจทั้งที่ชาวโอกินาว่าพยายามอย่างเต็มที่ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส แต่กลับทางกองทัพสหรัฐกลับปล่อยให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสในหมู่บคุลาการของกองทัพอย่างรวดเร็ว ทำให้ในตอนนี้เป็นที่กังขาอย่างมากว่าทางฐานทัพสหรัฐได้มีมาตรการป้องกันการระบาดของไวรัสอย่างเพียงพอหรือไม่
โอกินาว่าซึ่งเป็นเกาะทางใต้สุดของญี่ปุ่นแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของฐานทัพสหรัฐภายใต้ข้อตกลงความมั่นคงทวิภาคี โดยปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับฐานทัพสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาชญากรรม หรือมลพิษทางเสียง ล้วนเป็นเรื่องอ่อนไหวต่อความรู้สึกของประชาชนในท้องถิ่นโอกินาว่ามาโดยตลอด ขณะนี้จังหวัดโอกินาว่าได้มีการยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเวลา 4 วันติดต่อกันแล้ว โดยในตอนนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 148 คน ไม่รวมยอดผู้ติดเชื้อจากฐานทัพสหรัฐ
ที่มา : https://news.yahoo.co.jp/articles/250109837c1df2103c970b47654e2e6d9f2dbb3e