ปราสาทอูเอดะ (上田城)

วัดชินาโนะโคคุบุนจิ เป็นวัดนิกายเทียนไถ ประกอบด้วยสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนา อาทิ โบสถ์หลัก (ยาคุชิโด), เจดีย์, โชโร, คันนอนโด (วิหารเจ้าแม่กวนอิม) และไดโคคุเท็นโด เจดีย์ 3 ชั้นของที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติอีกด้วย ภูมิทัศน์ของเจดีย์และต้นแปะก๊วยเป็นทัศนียภาพที่สวยงามและสีของใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีสวยสดใสในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

ศาลเจ้าอิคุชิม่าทารุชิม่า ศาลเจ้าเก่าแก่เป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้าแห่งปฐพีสร้างถวายแด่เทพเจ้า 2 องค์คือ “อิคุชิม่า” และ “ทารุชิม่า” ตัวศาลเจ้าสร้างบนเกาะกลางน้ำขนาดเล็กอันเป็นรูปแบบที่เก่าแก่ของญี่ปุ่นพื้นวิหารเป็นพื้นดินซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้า สีแดงสด ตัดกับบรรยากาศธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจ

นาข้าวโอบะสึเตะ นาข้าวขั้นบันไดขนาดใหญ่ประกอบด้วยนากว่า 1,500 ผืน บนเนินกว้าง 25 เฮกเตอร์ มีประวัติศาสตร์ยาวนานและถูกนำไปเขียนเป็นบทกวีประมาณ 400 ปีที่แล้วพรรณนาถึงทัศนียภาพของพระจันทร์อันกระจ่างใสสะท้อนกับผิวท้องนาข้าว

ปราสาทโคโมโระ จุดชมซากุระบริเวณปราสาทเก่าแก่โคโมโระ แห่งนี้มีต้นซากุระอยู่มากถึง 450 ต้น โดยต้นซากุระแต่ละต้นต่างก็สูงใหญ่และผลิดอกบานสวยต้อนรับฤดูใบไม้ผลิถือเป็นจุดชมซากุระที่เต็มไปด้วยประวัติศาตร์เพราะปราสาทแห่งนี้มีอายุยาวนานมาถึง 400 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงความสวยงามโดดเด่นคู่กับซากุระ

พิพิธภัณฑ์รถไฟ นางาโน่ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเอาเรื่องเกี่ยวกับรถไฟของญี่ปุ่นตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาและนักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมกัน และที่น่าสนใจก็คือที่นี่เค้ายังจะมีทั้งจุดชมวิวรถไฟสวยๆ และพื้นที่สำหรับเด็กๆ รวมไปถึงกิจกรรมสนุกๆให้ได้ทำกันอีกด้วย

วัดเซ็นโคจิ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของนากาโน่ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ศาสนาพุทธในประเทศญี่ปุ่น และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์แรกที่เข้ามาในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นวัดที่ไม่แบ่งแยกชนชั้น นิกายและไม่จำกัดความศรัทธาของสตรีในพุทธศาสนา วัดเซนโคจิจึงเป็นสถานที่ที่ดึงดูดสาธุชนผู้เลื่อมใสจากทั่วสารทิศในประเทศญี่ปุ่นจนมีคำกล่าวโบราณของญี่ปุ่นที่ว่า เป็นวัดที่“ ต้องไปให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต”

พิพิธภัณท์การศึกษาโรงเรียนไคจิ เป็นหนึ่งในโรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ปัจจุบันโรงเรียนได้ย้ายออกไปที่อื่นแล้วอดีตโรงเรียนแห่งนี้ตัวอาคารทำด้วยไม้และมีความสวยงามของสถาปัตยกรรมในยุคเมจิต่อมาจึงเปลี่ยนอาคารหลังดั้งเดิมที่เป็นอาคารไม้ 2 ชั้นสไตล์ยุโรปผสมญี่ปุ่นนี้ให้เป็นพิพิธภัณ์ที่จัดแสดงและให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การศึกษาของประเทศญี่ปุ่น

พิพิธภัณฑ์ศิลปะมัตสึโมโตะ เป็นสถานที่สำคัญของเมืองมัตสึโมโตะ ได้รับรางวัลด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบที่ทันสมัย ซึ่งมีการใช้กระจกโปร่งแสงเป็นจำนวนมาก คุซาม่า ยาโยอิ เป็นศิลปินระดับโลกที่เกิดในเมืองมัตสึโมโตะ ซึ่งผลงานสามมิติของเธอ "มาโบโรชิ โนะ ฮานะ (Maboroshi no Hana)" ถูกจัดแสดงไว้ที่นี่อย่างถาวร

ปราสาทมัตสึโมโตะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของเมืองแห่งนี้และยังเป็น 1 ใน 12 ปราสาทดั้งเดิมที่ยังคงสภาพสมบูรณ์และสวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย อีกทั้งตัวปราสาทเองยังโดดเด่นมีเอกลักษณ์แปลกตาจากที่อื่นจนได้รับฉายาว่าปราสาทอีกา เพราะสีผนังของปราสาทเป็นสีดำ และมีปีกด้านต่างๆ กางเหมือนกับอีกา ไฮไลค์ที่น่าสนใจคือซากุระภายในบริเวณที่รายล้อมตัวปราสาทจะเบ่งบานงดงามมากที่สุดต้องมาช่วงเดือนเมษายนของทุกปี

ถนนนาคามาชิ แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งเมืองมัตสึโมโตะ คนที่ชอบสินค้าที่เอกลักษณ์ไม่เหมือนใครน่าจะถูกใจไม่ใช่น้อย เพราะเค้าจะมีร้านค้าเล็กๆ ขายของแฮนด์เมด ของที่ละรึก ของสะสมต่าง ร้านอาหาร เครื่องดื่มและที่พักแบบเรียวกังเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย

ไร่วาซาบิไดโอะ ป็นฟาร์มวาซาบิที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นครอบคลุมพื้นที่15เฮกตาร์ ใครที่ชื่นชอบวาซาบิก็สามารถซื้อได้ที่ร้านอาหารที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากวาซาบิอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นวาซาบิสด วาซาบิดอง โซบะวาซาบิ แกงกะหรี่วาซาบิ ไส้กรอกวาซาบิน้ำสลัดรสวาซาบิ เบียร์ที่ทำจากวาซาบิ น้ำวาซาบิ ไอศกรีมรสวาซาบิ ช็อกโกแลตรสวาซาบิ และอื่นๆอีกมากมายที่จะมีผลิตภัณฑ์ออกใหม่มาให้ได้ลองเรื่อยๆ

พิพิธภัณฑ์นาฬิกาแห่งมัตซึโมโต มีสัญลักษณ์เป็นจุดเด่นคือนาฬิกาลูกตุ้มขนาดใหญ่ด้านนอกอาคารจัดแสดงนาฬิกาโดยพิพิธภัณฑ์นาฬิกาแห่งนี้จะจัดแสดงนาฬิกามากกว่า 300 เรือน และนาฬิกาขนาดใหญ่จำนวนมากยังสามารถทำงานได้ตามปกติ