วัดคิโยมิซุ (清水寺)

วัดคิโยมิซุ (清水寺) หรือ วัดน้ำใส เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 1,200 ปี ถือเป็น 1 ในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสูงสุดของประเทศญี่ปุ่น และยังเป็น 1 ใน 17 สถานที่ในเกียวโตที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือองค์การยูเนสโก (UNESCO) สิ่งปลูกสร้างที่สำคัญของวัดแห่งนี้อยู่ที่ศาลาไม้ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ซึ่งถูกรองรับด้วยเสาไม้ขนาดใหญ่จำนวนหลายร้อยต้น เมื่อมองจากระเบียงของศาลาไม้จะเห็นดอกซากุระบานในช่วงฤดูใบ้ไม้ผลิ และเห็นต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนสีเป็นสีแดงในช่วงฤดูใบ้ไม้ร่วง

ที่มาของชื่อ "วัดน้ำใส" มาจากสายน้ำ 3 สายซึ่งไหลมาจากน้ำตกโอโตวะ (Otowa no Taki) แต่ละสายนั้นจะมีความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อกันว่าหากได้ดื่มน้ำจากแม่น้ำสายที่ 1 จะประสบความสำเร็จเรื่องการศึกษา หากดื่มน้ำจากแม่น้ำสายที่ 2 จะสมหวังเรื่องความรัก หากดื่มน้ำจากแม่น้ำสายที่ 3 จะมีสุขภาพแข็งแรงและมีอายุยืนยาว ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักนิยมดื่มน้ำจากแม่น้ำครับทั้ง 3 สาย

ภายในบริเวณวัดยังมีศาลเจ้าจิชู (Jishu-jinja) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อสักการะเทพโอคุนินุชิโนะ มิโกโตะ (Okuninushino Mikoto) ซึ่งเป็นเทพแห่งความรักและคู่ครอง ภายในศาลเจ้าแห่งนี้จะมีหินแห่งความรัก 2 ก้อนตั้งอยู่ห่างกัน 18 เมตร โดยเชื่อกันว่าหากสามารถหลับตาเดินจากก้อนหินก้อนแรกไปยังหินอีกก้อนหนึ่งได้โดยไม่หลงทิศทางจะสมปรารถนาในเรื่องความรัก

นอกจากนี้อีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมคือการเสี่ยงเซียมซี หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า "โอมิคุจิ" (Omikuji) โดยคำทำนายจะเป็นใบกระดาษแบบสุ่มหยิบ ถ้าได้คำทำนายที่ไม่ดีสามารถไม่รับ โดยการนำไปพันไว้กับเสาเพื่อฝากไว้กับวัดได้ และยังมีป้ายขอพร (Ema) ที่ให้เขียนความปรารถนาลงไป โดยส่วนใหญ่มักจะขอในเรื่องการงาน การเรียน ความรัก และสุขภาพ

- นั่งรถบัส สาย 100 หรือ 206 มาลงที่ป้าย Gojo-zaka หรือ Kiyomizu-michi จากนั้นเดินขึ้นเนินไปสู่ตัววัดอีกประมาณ 900 เมตร

- นั่งรถไฟสาย Keihan Railway Line มาลงที่สถานี Kiyomizu-Gojo Station แล้วเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที